การประชุมเพื่อปรับกฎระเบียบเครื่องสำอางให้สอดคล้องกันในอาเซียน ASEAN Cosmetic Committee and related meeting ล่าสุด ครั้งที่ 29 จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซียระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคม 2561 สาระสำคัญที่ได้จากที่ประชุมซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบใหม่ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้ มีดังต่อไปนี้

Tagetes

Tagetes flower เป็นดอกไม้ในตระกูลดาวเรืองที่นำมาใช้ในเครื่องสำอางในรูปแบบสารสกัดที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมและใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม นอกจากนี้ยังมีหน้าที่เป็นสารบำรุงผิว (Skin Conditioning Agents) ในเครื่องสำอางอีกด้วย จากประกาศของ EU Regulation ฉบับที่ EC No. 2018/978 ได้กำหนดให้ Tagetes erecta flower extract และ Tagates erecta flower oil เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง นอกจากนี้ยังได้กำหนดเงื่อนไขในการใช้ Tagetes minuta flower extract, Tagetes minuta flower oil, Tagetes patula flower extract และTagetes patula flower oil ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้แล้วล้างออกในปริมาณสูงสุดที่ 0.1% และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้แล้วไม่ล้างออกในปริมาณสูงสุดที่ 0.01% ทั้งนี้ยังมีข้อกำหนดเพิ่มเติมคือห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายและสามารถโดนแสงแดดทั้งจากธรรมชาติ และ artificial UV light เนื่องจากมีโอกาสเกิดการระคายเคืองทางผิวหนังเมื่อสัมผัสกับแสง และยังมีข้อกำหนดให้ α-terthienyl(terthiophen) ที่เป็นองค์ประกอบใน extract/oil มีปริมาณสูงสุดที่ 0.35% ที่ประชุมเครื่องสำอางอาเซียนจะมีการพิจารณาถึงระยะเวลาบังคับใช้เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคในการประชุมครั้งถัดไปที่ประเทศพม่า เดือนมิถุนายน 2562 สำหรับประเทศไทยนั้นอยู่ในระหว่างการรอข้อสรุปจากประชุมอาเซียนและเตรียมการออกประกาศต่อไป ภาคอุตสาหกรรมเครื่องสำอางควรเตรียมการปรับปรุงและพัฒนาสูตรเครื่องสำอางให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่จะมีการบังคับการใช้ Tagetes ในอนาคต ทั้งในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้แล้วล้างออกและไม่ล้างออกให้เป็นไปตามปริมาณสูงสุดที่กำหนด

Climbazole  

บัจจุบันประเทศไทยอนุญาตให้ใช้ Climbazole กรณีเป็นสารกันเสียให้ใช้ในปริมาณสูงสุดที่ 0.5% และกรณีใช้เป็นสารที่มีเงื่อนไขในการใช้หรือ Annex III สามารถใช้ในปริมาณสูงสุดที่ 2% ในแชมพู และ 0.5% ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเส้นผมแบบไม่ล้างออก ในการประชุมครั้งนี้ ASEAN Cosmetic Association ได้นำเสนอรีวิวข้อมูลความปลอดภัยจากกลุ่มประเทศ EU เรื่องการใช้และปริมาณสูงสุดใหม่ของ Climbazole ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทั้งแบบที่ใช้แล้วล้างออกและไม่ล้างออกซึ่งจะแนวโน้มที่จะบังคับเป็นกฎหมายในอนาคต ขณะนี้ข้อมูลจาก EU อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ Climbazole กรณีใช้เป็นสารกันเสียให้ใช้ในปริมาณสูงสุดที่ 0.5% เฉพาะแชมพู และ 0.2 % ใน face cream, hair lotions and foot care กรณีใช้เป็นสารที่มีเงื่อนไขในการใช้ สามารถใช้ในปริมาณสูงสุดที่ 2% ในแชมพู และ 0.2% ใน face cream, hair lotions and foot care ในการประชุมครั้งถัดไปที่ประชุมจะพิจารณาถึงขอบข่ายของชนิดผลิตภัณฑ์และระยะเวลาบังคับใช้ในอนาคต

 

ทั้งนี้ขอให้สมาชิกติดตามความคืบหน้าและประกาศจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาต่อไป